วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2550

จินตนาการ

จินตนาการ ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เป็นคำที่อยู่ภายในกลุ่มของ จินต-,จินต์ ซึ่งเป็นคำกริยา ที่แปลว่า คิด ส่วนคำ จินตนาการ เป็นคำนาม แปลว่า การสร้างภาพขึ้นในจิตใจ
จินตนาการ เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับจิตภาพ คือการสร้างภาพในสมอง หรือนึกคิดเป็นภาพ จึงเกี่ยวข้องกับความคิด สร้างสรรค์อย่างเลี่ยงไม่ได้ เป็นทักษะเบื้องต้นของความคิดสร้างสรรค์
ภาพที่ถูกสร้างขึ้นอยู่ในจิตใจ แบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้
แบบที่1 เป็นภาพเพ้อฝัน อาจจะจริง หรือไม่จริงก็ได้ แต่ส่วนมากมักจะไม่จริง เช่น คิดว่าเหาะได้ ภาพอย่างนี้ไม่มีความเป็นไปได้ แต่ด้วยความเพ้อฝัน นำมาสร้างอุปกรณ์ที่ช่วยให้คนขึ้นไปอยู่ในอากาศหมือนบินได้จริงๆ ภาพแบบที่หนึ่งนี้คือ imaginary(จินตนาการ)
แบบที่2 เป็นภาพที่ถูกสร้างขึ้น โดยการมองไปข้างหน้า หรือในอนาคต อาจนึกขึ้นมาลอยๆหรือนำเหตุผลมาประกอบเป็นมูลฐานการสร้างภาพ เช่นการมองว่าผลงานของเรามันออกมาจะต้องสุดยอด ทุกคนเห็นจะต้องตะลึง หรือมีคนต้องการผลงานของเราไปจัดแสดง ภาพที่มองเห็นในอนาคตนั้น อาจจะเป็นจริงหรือไม่จริงก็ได้ ภาพแบบทีที่สองนี้คือ vision(วิสัยทัศน์)
แบบที่3 เป็นภาพที่สร้างขึ้นตามความเป็นจริง เกิดขึ้นจริงแน่นอน ถ้าทำไปตามขั้นตอน เช่นการที่เราจะเป็นนักออกแบบที่ดีย่อมเกิดขึ้นได้ถ้าเราเป็นคนที่ขยันและพยายามสร้างผลงานที่ดีอยู่ตลอดเวลา ภาพแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน หากเราทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ภาพแบบที่สามนี้คือ logic(ตรรกะ)

จินตนาการของผม
จินตนาการข้างถนน
เกิดขึ้นจากการสังเกตรถที่วิ่งผ่านตามท้องถนน โดยสิ่งที่ได้สังเกตก็คือ รูปภาพที่ปรากฎอยู่ข้างรถ เช่น โฆษณาต่างๆตามรถเมล์ ภาพประกอบตามรถบัส โดยการสังเกตครั้งนี้ผมได้ตัดเรื่องของ content ที่อยู่รวมกับรูปภาพออกไป และสิ่งที่ผมได้รับระหว่างการสังเกตก็คือ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจากภาพที่ปรากำนั้น มันดูเหมือนเนื้อเรื่องที่ถูกร้อยเรียงกัน ถึงแม้มันจะประติดประต่อกันได้หรือไม่ แต่มันก็ดูน่าสนใจดี เวลาที่รถเคลื่อนที่ผ่านไปมา ผมเลยลองคิดดูว่าถ้าผมได้กำหนดภาพทุกภาพเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องกันขึ้นเอง มันคงสามารถเกิดงานแปลกๆที่ดูน่าสนใจขึ้นมาก็เป็นได้
ลักษณะของจินตนาการแบบนี้ตรงกับแบบที่3 คือมันจะเกิดขึ้นจริงได้ถ้าเราทำตามขั้นตอน

อีกจินตนาการหนึ่งเกิดขึ้นจากการสังเกตสิ่งของทุกอย่างที่มีรูปทรงแตกต่างกันไป เช่น พัดลม แอร์ ถุงขยะ ฝาปิดท่อ ฯลฯ ทุกสิ่งทุกอย่างผมมองมันเป็น caracter ของแต่ละตัว ด้วยการจัดสัดส่วนของมันให้ส่วนนี้ เป็นแขน ขา หัว ตา มันก็กลายมาเป็น caracter ที่ดูน่าสนใจแล้ว
ลักษณะของจินตนาการแบบนี้ตรงกับแบบที่1 เป็นแบบเพ้อฝัน แต่เราสามารถสร้างมันขึ้นมาตามความรู้สึกได้

โลกร้อน
ผมได้ลองคิดว่าถ้าเกิดโลกมันร้อนจนทำให้อุณหภูมิมันสูงขึ้นมาก อะไรที่มันจะมีผลกระทบบ้าง เลยลองคิดเล่นๆกับ ไข่ไก่ เวลาก่อนฟักตัวของมันจะต้องได้รับอุณหภูมิที่เหมาะสมจากแม่ไก่ แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริง สมมุติฐานของผม ไก่จะสูญพันธ์ ไข่ไก่จะฟักตัวได้เองเมื่ออุณหภูมิพอดี และเกิดผลกระทบอย่างต่อเนื่องกับทุกสิ่งที่มีไก่และไข่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นอกเสียจากการใช้ตู้ควบคุมอุณหภูมิในการฟักไข่
ลักษณะของจินตนาการแบบนี้ตรงกับแบบที่2 เป็นแบบอาจจะเป็นจริงหรือไม่จริงก็ได้

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

ขอบคุณ อาจารย์ติ๊ก&อาจารย์นุ ที่คอยสอนและให้คำแนะนำ และคอยกระตุ้นให้ตัวผมและเพื่อนๆคอยกระตือรือล้นในการทำงาน ในช่วงระหว่างที่ได้เรียนรู้กับอาจารย์ทั้งสองคนผมก็พยายามคอยพัฒนางานอยู่เสมอแต่ผลที่ออกมาให้เห็นนั้นมันน้อยนิดมาก แต่หลังจากนั้นก็ได้คำแนะนำที่ดีจากอาจารย์ทั้งสองทำให้งานได้ถูกพัฒนาขึ้นไปได้ดี แต่ยังไม่ถึงที่สุด เป็นเพราะกว่าจะจบกับเรื่องของแกนก็ใช้เวลาไปนานมาก และปัญหาในการออกแบบก็มีอยู่มากระหว่างการทำงานกว่าจะผ่านพ้นช่วงนั้นไปเป็นช่วงเวลาที่ท้อแท้ รู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็ยังมีพลังที่ขับออกมาใช้ในการต่อสู้กับปัญหาต่อไป ทำให้งานออกมาประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง และผมก็หวังว่าจะพัฒนางานต่อไปอีกให้ถึงที่สุด แต่ตอนนี้ก็เกิดปัญหาอยู่พอสมควร เพราะงานได้ถูกรื้อออกไปแล้วโดยไม่เห็นความสำคัญกับงานของผมเลยและถูกกระทำอย่างรุนแรงจนหักพัง ทั้งที่เขาก็เป็นคนที่เรียนทางด้านศิลปะแต่ไม่มีความรักศิลปะอย่างแท้จริงงานที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้เวลาพอสมควร ก็ถูกทำลายเพียงเสี้ยววินาที แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ผมขอขอบคุณอาจารย์ทั้งสองอีกครั้งครับ เมื่องานถูกพัฒนาต่อไปผมจะนำมาลงในนี้ กรุณาคอมเมนต์ด้วยครับ

statement 2

ขยายความต่อจากครั้งแรกที่เสนอไป ผมต้องการไปต่างประเทศเพื่อศึกษาต่อ ในด้าน communication design หรือหลักสูตรที่สูงขึ้นต่อเนื่องจากที่เรียนมา แต่ยังไม่ได้ศึกษาถึงข้อมูลว่ามีสาขาอะไรบ้างที่เหมาะสม ส่วนอีกความต้องการที่จะไปเอาในด้านอื่นที่นอกเหนือจากการเรียนในมหาลัยแล้ว ก็คือการเรียนรู้ชีวิตนอกมหาลัย การพัฒนาตัวเองในเรื่องการช่วยเหลือตัวเองในนการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ผมต้องการไปลุยที่ต่างประเทศมากครับ มันเป็นความฝันของผม ไปแบบไม่รู้จักใคร(แต่อาจรู้จักไว้ซักคนเผื่อเอาตัวเองไม่รอด)ขั้นแรกของแผนการคือเมื่อได้โอกาสไปแล้วเริ่มจากการหาที่พักราคาถูกๆสักห้องไว้พักพิง บางทีเราอาจพบปัญหาตั้งแต่แรกในเรื่องไม่มีที่พัก ก็เตรียมตัวไว้แล้วสำหรับที่พักฟรีๆ(ข้างถนนหรือที่สนามบิน)บางทีอาจจะเจอศิลปินข้างถนนก็ดีเลย มีความสุขดี เมื่อหาที่พักได้ลงตัวแล้ว(มีที่นอนกับห้องน้ำก็อยู่แล้ว)หลังจากนั้นเริ่มกำหนดแผนการไว้ล่วงหน้า แผนการแรก(ตอนนี้คงมีปัจจัยติดตัวไว้ซักก้อนพอประทังชีวิต)เอาแผนที่ ที่เราซื้อติดตัวมาจากบ้านแล้วออกเดินทางไปสถานที่แรกคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ อยากดูงานของศิลปินดังๆมาก ขอเต็มๆ และอยู่ที่นั่นทั้งวันทั้งคืนได้ยิ่งดี เมื่อพบเจอฝรั่งอย่าตื่นเต้นพูดคุยทำความรู้จักหน่อยพูดแบบมั่วๆถูกๆผิดๆไป (อย่าลืมportfolioติดตัวไปด้วย)ขอเวลาเขาสักหน่อยเพื่อโชว์ผลงานของตัวเอง เผื่อเขาจะสนใจงานเราอาจมีงานให้เราทำบ้างเป็นโอกาสทดีเลย หลังจากนั้นวันต่อไปเริ่มหางานทำเพื่อเก็บเงินก่อน มันคงหาลำบากก็คงต้องเอาตัวรอดแบบคนไทย ก้หางานที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ น่าจะง่ายกว่า มันคงจะอึดอัดกับงานที่เราไม่ชอบ แต่เพื่อเงินก่อน ทำอะไรก็ได้เก็บเงินก่อน ระหว่างนั้นก็เป็นการฝึกภาษาไปด้วย(ไม่ต้องไปเรียนปรับพื้นฐานให้เสียเงินอีกด้วย)ระหว่างทำงานคงไม่ได้เดินทางตามความต้องการ ถ้ามีวันหยุดก็ศึกษาเกี่ยวกับสถานที่เรียน สาขาที่เราต้องการไปด้วย หลังจากทำงานน่าจะมีเงินเก็บซักก้อนแล้วเรื่องการศึกษาอาจหยุดไปก่อน อยากจัก exhibition(ติดต่อหาสถานที่แล้วเอาportfolioไปให้เขาดูว่าสนใจให้เราแสดงรึเปล่า)ถ้าเขาสนใจก็เริ่มสร้างผลงานเลย แต่ถ้าไม่มีสถานที่สำหรับงานของผม ก็คงต้องสร้างผลงานขึ้นมาชิ้นหนึ่งที่สามารถเล่นกับ space ข้างถนนและผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้(อย่าลืม!ถ่ายรูปเก็บไว้ เป็นportfolio เราก็จะมีผลงานที่แสดงที่เมืองนอกด้วย)ขอใช้ชีวิตและสร้างผลงานที่นี่ไปเรื่อยๆ เมื่อเราได้ภาษาคล่องแล้วพยายามสร้างconnectionกับผู้คนที่สนใจงานเราหรือไปเสนอportfolioของเราเพื่อสามารถเข้าไปทำงานตามแบบที่เราชอบอย่างมีความสุข ถ้าเป็นอย่างที่วางเป้าหมายไว้ก็โอเค แต่ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีความแน่นอน มันขึ้นอยู่กับความพยายามของเรา+โชคชะตาเข้าไป สักวันผมคงจะเป็นศิลปินที่มีชื่อหรือไม่มี หรือเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นแค่ส่วนประกอบในสังคมเล็กๆก็เป็นได้

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2550

statement 1

ขั้นตอนในแผนการที่ผมคิดไว้หลังจากเรียนจบป.ตรีแล้ว ผมคิดว่าจะบวชเพื่อป๊า แม่ และตัวเองสัก 1 พรรษา เพราะอยากฝึกสมาธิของตัวเองให้ดีขึ้น ถอยหลังกลับมาตั้งต้นเพื่อทบทวนสิ่งที่ได้รับการฝึกฝนมานาน แล้ววิเคราะห์ก่อนว่าเรานั้นเหมาะสมกับงานแบบไหนหลังจากนั้นก็คงเริ่มไปหางานทำทันทีเลย ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องของคนอื่นตามบริษัท อันนี้สมควรก่อนเป็นอันดับแรก เพราะก่อนที่จะไปเป็นเจ้านายของคนอื่นคงต้องฝึกฝนอีกหลายกระบวนท่า หรือถ้าไม่สามารถหางานได้ก็คงต้องหา freelance ทำไปพร้อมกับหางานไปในตัว เมื่อทำงานเก็บเงินส่วนตัวได้ส่วนหนึ่งแล้ว คงประมาณสัก2-3 ปี ต่อจากนั้นเอาทุนที่มีเพื่อใช้ในการศึกษาต่อ ป.โท (ต่างประเทศไม่ว่าจะยุโรปหรืออเมริกา) มันเป็นความฝันอีกอย่างที่ผมฝันไว้และหวังกับฝันนั้นมาก ระหว่างนั้นผมจะเริ่มสร้างผลงานของตัวเองขึ้นมาแล้วก็จัด exhibition เล็กๆขึ้นเพื่อแสดงผลงานของตัวเอง และพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง เมื่อศึกษาจบแล้วก้จะกลับมาทำงานต่อ และก็หาเวลาว่างเพื่อสร้างผลงานของตัวเองอยู่ตลอดเวลา

//Sequence of Shadow\\

ผลงานชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก"เงา" เป็นส่วนหนึ่งของคำว่า"sequence"เป็นความต่อเนื่องกัน โดยมีการเชื่อมโยงกันอย่างมีระบบ จาก แสง----วัตถุ----เงา หลังจากนั้นก็เริ่มทำการศึกษาข้อมูลในเรื่องระบบของการเกิดเงาต่อ แล้วทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้เพื่อใช้ในการทดลองต่อไป ในการทดลองผมได้ควบคุมในเรื่องของแสง แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ 1.แสงจากธรรมชาติ(แสงอาทิตย์)2.แสงที่ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ(แสงจากหลอดไฟ) ความแตกต่างที่พบในการทดลองในการกำหนดลักษณะของแสงนั้นพบว่า เงาที่เกิดจากแสงอาทิตย์จะมีเวลาเป็นเงื่อนไขในการควบคุมทิศทางการเกิดเงา ส่วนแสงที่เกิดจากหลอดไฟ เราสามารถควบคุมทิศทางของเงาได้เอง

ทดลอง(object)

เมื่อได้รับคำปรึกษาจากอาจารย์ คำถามที่ได้รับในครั้งนี คือการทดลองในเรื่องของวัตถุ และการเคลื่อนไหวของวัตถุว่าจะส่งผลต่อรูปร่างในเชิงบวกอย่างไรบ้าง




ผลที่ได้จากการทดลองกับวัตถุหลากหลายรูปทรงนั้น ลักษณะของ"คน"ส่งผลในเรื่องของ form ได้ดี เนื่องจากรูปร่างคนมี form ที่ผสมผสานกันหลากหลายรูปทรง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง freeform ได้ดี

ทดลอง(object)กับการเคลื่อนไหว

ทดลองด้วยการถ่ายวิดีโอ เพื่อทดลองลักษณะของ form ที่เกิดขึ้น เมื่อเกิดการเคลื่อนที่ของวัตถุ สมมุติฐานในการทดลองครั้งนี้
เมื่อแสงตกกระทบ เกิด form ในลักษณะ freeform
เมื่อมีการเคลื่อนไหว form และทิศทางเปลี่ยนแปลง
เกิดมิติ form ในลักษณะ ใกล้-ไกล


ผลจากการทดลอง ข้อเสียที่ได้รับในเรื่องลักษณะของงานที่ออกมานั้น ยังไม่สามารถสื่อสารได้ดี และดูไม่น่าสนใจ

//ทดลอง\\

เมื่อได้ทดลองกับสื่อ video แล้ว งานที่ถูกสร้างออกมานั้นไม่ได้ผลตามต้องการ จึงเริ่มถอยหลังกลับไปสู่จุดเริ่มต้น และได้ทำการทดลอง โดยการใช้วัสดุจากไม้มาสร้างเป็น figureของคน + typeที่ถูกเจาะ stensil ผสมผสานกัน

สรุปผลที่ได้รับ อาจารย์บอกว่าเป็นการหาทางออกจากปัญหาได้ถูกทางแล้ว อาจารย์ก็ได้แนะนำในเรื่องที่ต้องแก้ไข คือ
เรื่องของแสง เราควรควบคุมแสงเอง(ตัวเราเป็นพระอาทิตย์)
Type จะเชื่อมโยงกับตัว figure อย่างไร

หลังจากนั้นผมก็นำเรื่องที่ควรปรับปรุง มาทำการวิเคราะห์เพื่อใช้ในการออกแบบ
ศึกษาเรื่องของท่าทางของคนที่แสดงออกในด้านของอารมณ์ เพราะในลักษณะท่าทางของเงาสามารถสื่อสารออกมาให้รู้สึกถึงอารมณ์ได้ดี
สร้าง figure ของคน ในการแสดงออกมาถึงอารมณ์ต่างๆ
Type ควรเป็นคำที่สามารถเชื่อมโยงลักษณะ figure ได้ดี

//Figure DEsign1\\

Figure DEsign ที่ได้รับการกำหนดลักษณะของท่าทาง อารมณ์ และtype ที่เชื่อมโยงกับตัวfigure
border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5114127038464280722" />
อาจารย์แนะนำให้ปรับปรุงหลังการนำเสนอคือ
สร้าง figure ให้มีขนาดรูปร่างเหมือนจริง สัดส่วนจริง
type ควรใช้ font ที่มีอยู่แล้วเลือกมาใช้ให้เหมาะสม
ถ่ายรูปโดยการกำหนดท่าทางเอง เพื่อนำไปใช้ในการออกแบบ
ถ่ายรูปโดยกำหนดแสงเอง

//Sketch DEsign2\\

ขั้นตอนแรกออกแบบตามรูปแบบที่ได้กำหนดและได้รับการแก้ไขไว้แล้ว









//Photo\\

นำโครงร่างที่ได้รับการออกแบบไปสู่ขั้นตอนการสร้างขึ้นมาเป็น figure ที่สมบูรณ์
นำไปจัด Installation ทำการ fix แสง และทดลองเทคนิคเรื่องแสง



























//sequence of shadow\\






ตัวตน

รูปภาพของฉัน
ราชบุรี, ตะวันตก, Thailand
สร้างสรรค์ + ศิลปะ